SKIN BOOSTER
Skin Booster คือ การเติมสารอาหารที่เหมาะสมให้ผิว เพื่อกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย ความเหี่ยวย่น รอยแผลที่เกิดจากสิว เพิ่มความกระชับให้กับผิว เก็บความชุ่มชื้นและฟื้นฟูได้ในเวลาอันรวดเร็ว
Skin Booster เทรนด์ใหม่ของนวัตกรรมลดเลือนริ้วรอย
เมื่ออายุมากขึ้น องค์ประกอบทั้งสี่ของผิวสุขภาพดีจะลดลง คอลลาเจนที่ผิวลดลง อีลาสตินที่ผิวลดลง รวมถึงไฮยาลูโรนิคแอซิดที่ผิวลดลง ทำให้ผิวแห้งกร้าน
ปัจจุบันมีเทคโนโลยีเครื่องยกกระชับและเลเซอร์ ที่สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ให้ผิว นอกจากนี้ยังมีการใช้สารไฮยาลูโรนิคแอซิดที่สังเคราะห์ขึ้นมา หรือ การใช้โพลีนิวคลีโอไทด์ (Polynucleotide) ฉีดเข้าไปในชั้นผิวหนัง (intradermal injection) เพื่อเพิ่มความชุ่มชึ้นให้ผิว เรียกนวัตกรรมนี้ว่า “Skin Booster” ตัวช่วยในการแก้ปัญหาผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำความรู้จัก Skin Booster
Skin Booster คือ การเติมสารอาหารที่เหมาะสมให้ผิว เพื่อกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย ความเหี่ยวย่น รอยแผลที่เกิดจากสิว เพิ่มความกระชับให้กับผิว เก็บความชุ่มชื้นและฟื้นฟูได้ในเวลาอันรวดเร็ว
Skin Booster เหมาะกับใคร
ผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ มีริ้วรอยและร่องลึก มีแผลเป็น รวมถึงปัญหาผิวอื่นๆ และต้องการรับการรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัดเพื่อซ่อมแซมผิวจากภายใน ต้องการย้อนวัยและคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ผิว
เมื่อคุณภาพผิวแย่ลง สัญญาณที่มองเห็นได้อาจเป็นผิวที่ไม่สม่ำเสมอ หยาบ แห้ง ไม่เรียบเนียน สูญเสียความสดใสของผิวไป สีผิวหมองคล้ำ สัญญาณที่มองเห็นได้อีกอย่างหนึ่งของคุณภาพผิวที่เสื่อมโทรมก็คือ การสูญเสียความกระชับ Skin Boosters คือทางออกสำหรับปัญหาริ้วรอยแห่งวัยและต้องการเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วทันใจ ผลลัพธ์ของการฉีด Skin Boosters อาจอยู่ไปอีกหลายเดือนหรือหลายปี ขึ้นอยู่กับสารที่เลือกใช้และสภาพผิวของแต่ละคน
คำถามที่พบบ่อย
Q: ผลข้างเคียงที่พบได้หลังฉีด Skin Booster มีอะไรบ้าง?
A: บวม แดง ช้ำ บางคนพบจุดฟกช้ำเล็กน้อยหลังฉีด ซึ่งพบได้บ่อยที่สุดบริเวณมุมตาเนื่องจากผิวหนังบางและมีเส้นเลือดเล็กๆ จำนวนมาก รอยช้ำเล็กๆ มักจะหายไปภายใน 1 – 2 สัปดาห์
Q: สามารถทำหัตถการอื่นร่วมกับ Skin Booster ได้หรือไม่?
A: สามารถทำการยกกระชับหรือเลเซอร์ก่อน แล้วจึงฉีดสารเพิ่มความชุ่มชื้นผิว หรือ Skin Booster แต่หากได้รับการฉีดสารเพิ่มความชุ่มชื้นผิวมาแล้ว แนะนำรออย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ ค่อยทำการยกกระชับหรือเลเซอร์
Q: Skin Boosters กับ Dermal Fillers ต่างกันอย่างไร?
A: ข้อแตกต่างที่สำคัญระหว่าง Skin Boosters กับ Dermal Fillers คืออาหารเสริมผิวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เปล่งประกาย และฟื้นฟูอีลาสติน ในขณะที่สารเติมเต็มผิวหนังช่วยคืนความอ่อนเยาว์ การรักษาทั้งสองวิธีใช้ส่วนผสมหลักของกรดไฮยาลูโรนิคและถูกฉีดเข้าใต้ผิวหนัง อาหารเสริมผิวสามารถคงอยู่ได้ตั้งแต่ 9 ถึง 12 เดือน ในขณะที่สารเติมเต็มผิวหนังจะอยู่ได้นาน 6 เดือน และจะต้องทำการรักษาอย่างสม่ำเสมอ
Skin Booster เทรนด์ใหม่ของนวัตกรรมลดเลือนริ้วรอย
- Skin Boosters คือทางออกสำหรับปัญหาผิวหมองคล้ำ มีริ้วรอยและร่องลึก ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วทันใจและต้องการรับการรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัดเพื่อซ่อมแซมผิวจากภายใน
- ผลลัพธ์การรักษาด้วย Skin Booster อาจอยู่ไปหลายเดือนหรือหลายปี ขึ้นอยู่กับสารที่เลือกใช้และสภาพผิวของแต่ละคน ผิวหน้าที่เหี่ยวย่นและมีริ้วรอย เป็นปัญหาที่ไม่มีใครต้องการ เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้ความมั่นใจลดลง ผิวสวย หรือ ผิวที่มีสุขภาพดี ดูได้จากองค์ประกอบ 4 อย่างคือ ความสม่ำเสมอของสีผิว (homogeneity of color) ความเรียบเนียน (smoothness) ความยืดหยุ่น (elasticity) และความชุ่มชื้นของผิว (hydration)
เมื่ออายุมากขึ้น องค์ประกอบทั้งสี่ของผิวสุขภาพดีจะลดลง คอลลาเจนที่ผิวลดลง อีลาสตินที่ผิวลดลง รวมถึงไฮยาลูโรนิคแอซิดที่ผิวลดลง ทำให้ผิวแห้งกร้าน
ปัจจุบันมีเทคโนโลยีเครื่องยกกระชับและเลเซอร์ ที่สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ให้ผิว นอกจากนี้ยังมีการใช้สารไฮยาลูโรนิคแอซิดที่สังเคราะห์ขึ้นมา หรือ การใช้โพลีนิวคลีโอไทด์ (Polynucleotide) ฉีดเข้าไปในชั้นผิวหนัง (intradermal injection) เพื่อเพิ่มความชุ่มชึ้นให้ผิว เรียกนวัตกรรมนี้ว่า “Skin Booster” ตัวช่วยในการแก้ปัญหาผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำความรู้จัก Skin Booster
Skin Booster คือ การเติมสารอาหารที่เหมาะสมให้ผิว เพื่อกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย ความเหี่ยวย่น รอยแผลที่เกิดจากสิว เพิ่มความกระชับให้กับผิว เก็บความชุ่มชื้นและฟื้นฟูได้ในเวลาอันรวดเร็ว
Skin Booster เหมาะกับใคร
ผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ มีริ้วรอยและร่องลึก มีแผลเป็น รวมถึงปัญหาผิวอื่นๆ และต้องการรับการรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัดเพื่อซ่อมแซมผิวจากภายใน ต้องการย้อนวัยและคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ผิว
เมื่อคุณภาพผิวแย่ลง สัญญาณที่มองเห็นได้อาจเป็นผิวที่ไม่สม่ำเสมอ หยาบ แห้ง ไม่เรียบเนียน สูญเสียความสดใสของผิวไป สีผิวหมองคล้ำ สัญญาณที่มองเห็นได้อีกอย่างหนึ่งของคุณภาพผิวที่เสื่อมโทรมก็คือ การสูญเสียความกระชับ Skin Boosters คือทางออกสำหรับปัญหาริ้วรอยแห่งวัยและต้องการเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วทันใจ ผลลัพธ์ของการฉีด Skin Boosters อาจอยู่ไปอีกหลายเดือนหรือหลายปี ขึ้นอยู่กับสารที่เลือกใช้และสภาพผิวของแต่ละคน
คำถามที่พบบ่อย
Q: ผลข้างเคียงที่พบได้หลังฉีด Skin Booster มีอะไรบ้าง?
A: บวม แดง ช้ำ บางคนพบจุดฟกช้ำเล็กน้อยหลังฉีด ซึ่งพบได้บ่อยที่สุดบริเวณมุมตาเนื่องจากผิวหนังบางและมีเส้นเลือดเล็กๆ จำนวนมาก รอยช้ำเล็กๆ มักจะหายไปภายใน 1 – 2 สัปดาห์
Q: สามารถทำหัตถการอื่นร่วมกับ Skin Booster ได้หรือไม่?
A: สามารถทำการยกกระชับหรือเลเซอร์ก่อน แล้วจึงฉีดสารเพิ่มความชุ่มชื้นผิว หรือ Skin Booster แต่หากได้รับการฉีดสารเพิ่มความชุ่มชื้นผิวมาแล้ว แนะนำรออย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ ค่อยทำการยกกระชับหรือเลเซอร์
Q: Skin Boosters กับ Dermal Fillers ต่างกันอย่างไร?
A: ข้อแตกต่างที่สำคัญระหว่าง Skin Boosters กับ Dermal Fillers คืออาหารเสริมผิวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เปล่งประกาย และฟื้นฟูอีลาสติน ในขณะที่สารเติมเต็มผิวหนังช่วยคืนความอ่อนเยาว์ การรักษาทั้งสองวิธีใช้ส่วนผสมหลักของกรดไฮยาลูโรนิคและถูกฉีดเข้าใต้ผิวหนัง อาหารเสริมผิวสามารถคงอยู่ได้ตั้งแต่ 9 ถึง 12 เดือน ในขณะที่สารเติมเต็มผิวหนังจะอยู่ได้นาน 6 เดือน และจะต้องทำการรักษาอย่างสม่ำเสมอ